ซีรี่ย์ฝรั่ง มีหนังมากมายให้ดูฟรี
ซีรี่ย์ฝรั่ง THE I-LAND – ดิ ไอแลนด์ตอนนี้กระแสของซีรีส์เรื่อง ‘ลอยเคว้ง’ Original Netflix เรื่องแรกของไทยยังคงเป็นที่เอ๋ยถึงอย่างหนาหู วันนี้พวกเราก็เลยต้องการจะมาชี้แนะอีกหนึ่งซีรีส์แนว Survival บนเกาะร้างสุดลึกลับ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ‘THE I-LAND’ ก็เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ถูกปลดปล่อยสตรีมไม่งอยู่บนหน้าหลักของ Netflix มาครู่หนึ่งแล้วแบบเดียวกัน แม้กระนั้นมันกลับไม่ค่อยเป็นที่เอ๋ยถึงในวงกว้างสักเท่าไหร่ แม้ว่าโครงเรื่องรวมทั้งภาพโปรโมตนั้นมีความน่าดึงดูดใจอยู่ไม่น้อย รวมทั้งจะเป็นด้วยเหตุว่าสาเหตุอะไรนั้น
คงจะจะต้องขอให้ทุกคนติดตามอ่านเนื้อหานี้ให้จบแล้วล่ะเล่าราวของคน 10 ผู้ที่ตื่นมาบนเกาะร้างไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิต โดยที่ทุกคนนั้นจะมีของประจำตัวมาเพียงแค่คนละ 1 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นมีด ขวาน และยังรวมไปถึงหอยแตรสังข์! ที่สำคัญทุกคนจะมีลักษณะอาการ ‘สูญเสียความทรงจำชั่วครั้งชั่วคราว’ ที่ทำให้พวกเขาจำเรื่องราวในอดีตกาลและก็ยังรวมทั้งชื่อของตนมิได้แม้แต่น้อย ความงงงันงงเต็กแล้วก็นิสัยที่ต่างกันแบบเต็มที่ ทำให้พวกเขาจะต้องทนอยู่ร่วมกันโดยไม่มีซึ่งความไว้เนื้อไว้ใจ แล้วก็จะต้องบากบั่นช่วยเหลือกันปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น
เพื่อเอาชีวิตรอดจากเกาะนี้ให้ได้ แม้ว่าจะมีสถานะการณ์แปลกเกิดมากมายก็ตามเกือบจะกล่าวได้ว่าเป็นปัญหาที่ยากรวมทั้งชั่วร้ายหินมากมายจริงๆสำหรับคนทำหนังที่เลือกจะถือเอาโครงเรื่องสุด คลิเช (cliche=ซ้ำๆซากๆ) อย่าง ‘การเอาตัวรอดบนเกาะร้าง’ ที่ส่งผลงานขึ้นหิ้งให้มองเห็นกันอยู่แล้วล้นหลามบนโลกภาพยนตร์รวมทั้งทีวี มาตีความหมายใหม่พร้อมเล่าให้มีความน่าดึงดูดใจแล้วก็จำต้องไม่ให้ภาพจำจากหนังเรื่องอื่นๆ
ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต มากมายลบจุดยืนของหนังตนเองจนกระทั่งถูกกลืนไปเสียหมด ซีรี่ย์ฝรั่ง ปัญหาระดับพระรอยแดงพวกนี้ก็เลยมักถูกผู้ผลิตแก้ปัญหากลับด้วยงานสร้างสุดประดิษฐ์แล้วก็วิจิตรตระการตา ใส่จุดขายของเรื่องที่แปลกใหม่น่าประทับใจ และยังรวมไปถึงผู้แสดงที่เลือกเอาออกมาใช้ก็จำเป็นต้องน่าสนใจมากพอที่จะดึงผู้ชมเอาไว้ไม่ให้ปิดหนีไปเสียก่อน ซึ่งหนังแนว ‘Survival’ อย่างงี้มันก็มีหลายเรื่องที่มีครบทุกหัวข้อหลักในแบบผู้ชมอยาก แม้กระนั้นก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ไปไม่ถึงมาตรฐานใดสักข้อสิ่งเดียวกัน
ดูหนังผ่านเน็ต ‘THE I-LAND’ ก็เลยเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เปิด แรกไว้ได้น่าดึงดูดแล้วก็น่าติดตามมากมายๆบางทีอาจด้วยเหตุว่าระยะแรกๆนั้น ต่อให้มีการเริ่มเรื่องราวด้วยฉากคลาสสิกสไตล์หนังติดเกาะเหมือนเรื่องอื่นๆทั่วๆไป แม้กระนั้นการปูเรื่องราวความลี้ลับรวมทั้งที่ไปที่มาของเกาะร้างพร้อมคนอีก 10 ผู้ที่อีกทั้งต่างพื้นเพต่างนิสัยเอาไว้ได้อย่างน่าเร้าใจ บวกกับการทิ้งเงื่อนสงสัยเอาไว้ภายในดูเหมือนจะทุกๆSequence ของตอนแรก ทำให้พวกเราผู้ชมยิ่งทวีความต้องการอยากจะรู้รวมทั้งความคาดหมายไปแล้วว่ามันควรจะมีอะไรให้น่าระทึกใจมากยิ่งกว่านี้อีกอย่างไม่ต้องสงสัย
ทำให้ตอนต้นหัวข้อนั้นก็เลยแอบมีกลิ่นของหนังเอาชีวิตรอดสุดคลาสสิกชวนดูอยู่ไม่น้อย แม้กระนั้นเพียงพอพ้นตอน นี้ไป หนังก็ทำลายความคาดหมายของผู้ชมกระทั่งหมดเกลี้ยงเมื่อยิ่งดำเนินเรื่องไปเรื่อยก็ยิ่งมีพล็อตรองอื่นๆเข้ามาแทรกมากไม่น้อยเลยทีเดียวขึ้นในระหว่างที่เค้าเรื่องหลักแทบไม่เฉลยคำตอบอะไร จนกระทั่งความน่าเร้าใจแปลงเป็นความงงที่ผู้ชมเริ่มตามไม่ทัน แล้วก็เริ่มจูนกับเรื่องราวไม่ค่อยติดสักเท่าไหร่ ทำให้ตอนหลังของการดูเรื่องราวทั้งผองให้หมดนั้น แทบจะกล่าวได้ว่าเป็นความทรมาทรกรรมอย่างยิ่งสำหรับเพื่อการมองซีรีส์สักเรื่อง (จริงๆนะ)
แถมรายละเอียดที่เริ่มออกสมุทรไปเรื่อยจวนเจียนเกือบจะได้เป็นแรงวที่โจรสลัดอยู่แล้ว(ฮา) ก็ดันถูกตบกลับมาแบบกระทันหันในส่วนท้ายๆของซีซัน ที่ในช่วงเวลานั้นดวงใจหัวใจผู้ชมก็เบื่อกับเรื่องราวอย่างมาก ทำให้ระยะหลังๆของเรื่องเปลี่ยนเป็นการสรุปเงื่อนรวมทั้งเฉลยคำตอบที่ไปที่มาของเรื่องราวได้แสนจะเบาหวิว ไม่มีซึ่งน้ำหนักของความเป็นเหตุเป็นผลอะไรก็ตามชักชวนให้รำลึกถึงเพลงของ The Toy ฉันจะพาคุณลอยยย… ลอยออกสมุทรไปเลยอะจ้ะ แหะอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ซีรีส์ที่มากับพล็อตสุดซ้ำๆซากๆหัวข้อนี้
ไม่เป็นที่เด่นออกมาจากผลงานอื่นๆสักเท่าไหร่โน่นบาง ซีรี่ย์ฝรั่ง ครั้งก็อาจจะเป็นเพราะเหตุว่าหนังชนิดนี้มีตัวละครเยอะแยะ (10 คน) แล้วก็มีถึง 10 ติดอยู่แรกเตอร์ที่ต่างๆนาๆ แต่ว่าดันถือเอาจุดแข็งนี้มาใช้งานได้อย่างไม่คุ้ม ทำให้บางผู้แสดงก็ดูเหมือนจะเสียของ เนื่องจากเกือบจะปราศจากความเกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวอะไรก็ตามเป็นมีอยู่ให้รู้ดีว่ามีแต่ว่าดันผิดใช้ประโยชน์ แถมบางผู้แสดงก็ดันโง่งมน่าเบื่อหน่ายซะกระทั่งต้องการจะกดผ่านให้มันรู้แล้วรู้รอดไป จะบอกว่าผู้แสดงที่ไม่เวิร์กพวกนี้นั้นส่งผลเป็นอย่างมากอย่างยิ่งจริงๆที่ทำให้ตัวเรื่องราวมีความน่าดึงดูดใจลดน้อยลงก็คงจะไม่ผิด
Tribes Of Europa ยูโรปาดุร้าย
Tribes of Europa หรือ ยูโรปาร้ายกาจ ซีรีส์แนวไซไฟดราม่า-ดิสโทเปียจากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สร้างโดย Wiedemann & Berg Film Production สตูดิโอหนังจากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ผู้ผลิตซีรีส์เรื่อง ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต DARK ที่เคยสร้างความอึ้งตาแตกของงานไซไฟแนวยุโรปที่สุดยอด โอกาสนี้ขอลดขนาดสเกลจากเรื่องเวลามาคือเรื่องของโลกอนาคตที่ล่มสลายอย่างที่ผู้ชมหนังถูกใจเรียกกันว่า ดิสโทเปีย แทน สร้างโดย ฟิลิป คอค พร้อมดาราหนังเยอรมันแน่นอย่าง เฮนรีเอตเทอ คอนฟูเรียส, เอมิลิโอ ซาครายา, ดาวิด อาลี ราเชด
จำหน่ายโดยเน็ตฟลิกซ์ นับว่าเป็นอีกรอบที่บริษัทสร้างภาพยนตร์สร้างเรื่องราวสไตล์ของตนอีกรอบ ซีรี่ย์ฝรั่ง ด้วยพล็อตที่ผู้ใดกันแน่ได้ยินก็จำต้องมั่นใจว่ามันมีจนถึงเฝือแล้วในแวดวงฮอลลีวู้ด แม้กระนั้นพอเพียงมันมาอยู่ในสเกลของยุโรป มันก็จำต้องสร้างจุดเปลี่ยนที่น่าดึงดูดได้เหมือนกัน“ในปี 2074 โลกนั้นได้ล่มสลาย เทคโนโลยีได้ตายจากอย่างไม่รู้ต้นเหตุที่เรียกว่า ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต “ธันวาดุร้าย” สังคมมนุษย์ในยุโรปต่อจากนั้นถูกแบ่งได้เป็นชนเผ่าจักรวรรดิต่างๆเรียกว่า ยูโรปา ผู้คนที่อาศัยเล็กน้อยถูกบีบให้จำเป็นต้องฆ่าคุ้นเคย
เล็กน้อยอยู่อย่างเงียบๆมาเป็นระยะเวลานาน หรือแม้กระทั้งกองกำลังทหารที่อุตสาหะทวงคืนสังคมที่แสนสงบกลับมา แต่ว่าสามญาติพี่น้อง เอลคุณย่า ลิฟ และก็คีอาโน ที่อาศัยอยู่ในชนเผ่าที่แสนสุขสงบร่วมกับบิดาของตนเอง ครอบครัวที่แสนรักใคร่สมัครสมาน กลับจะต้องถูกดึงไปสู่วังวนที่การเอาตัวรอด เมื่ออันตรายจากชนเผ่าทารุณไร้มนุษยธรรมได้เข้ารุกรามชีวิตและก็แยกพวกเขาออกมาจากกัน ทั้งยังสามก็เลยต้องหาวิถีทางที่จะดิ้นรนรอดตาย เพื่อความคาดหวังที่จะปล่อยเผ่าต่างๆจากความมืดดำมิดที่กำลังเข้าครอบครองทวีปอย่างช้าๆ”
ถ้าเกิดได้ดูหนังฮอลลีวู้ดมาเยอะมากๆจะเข้าดวงใจได้ในทันทีทันใดเลย มิได้สลับซับซ้อนอะไรเยอะแยะ อีกทั้งเรื่องพล็อตโลกล่มสลาย เรื่องของชนเผ่าต่างๆที่จำเป็นต้องอยู่แยกกันไม่ให้มีปัญหาหรือการรบ ไม่ก็จำเป็นต้องออกชิงอาณานิคมในทวีป ซึ่งมันเป็นส่วนประกอบสำคัญของแนวดิสโทเปีย แน่ๆซีรีส์ก็ดำเนินเรื่องแบบงี้แบบเดียวกัน โครงของมันแบบไม่สปอยก็คือ นักแสดงอยู่แบบสงบๆงงมากๆไม่อะไรกับคนใดกันแน่
แม้กระนั้นและเกิดเหตุการณ์ใหญ่สังกัดตนเองกระทั่งจำต้องหลบซ่อนออกมาจากที่ที่ตนเองเคยอยู่ ซีรี่ย์ฝรั่ง ความประพฤติของนักแสดงนั้นสอดคล้องกับผู้แสดงและก็มีเหตุผลทุกคน เรื่องราวยังซ่อนเร้นไปด้วยความร้ายแรงที่บางโอกาสอายุ 18 ก็ยังจำเป็นต้องใคร่ครวญตาม เนื่องจากมันแรงมากมายอย่างไม่น่าเชื่อนี่เป็นความเอาจริงเอาจังที่ซีรีส์อเมริกันให้มิได้เป็นดำเนินเรื่องไปด้านหน้าอย่างไม่อ้อมค้อม ในเวลาเดียวกันก็ตั้งใจเนื้อหาหรืออารมณ์ของนักแสดงด้วย ทำให้พวกเรารู้สึกอินตามว่าพวกเราจะอยู่ฝั่งไหน
มีมิติของความประพฤตินั้นอยู่ ในตอนตอนต้นบางทีก็อาจจะคิดว่ามันแปลกๆซ้ำจากจำเจ แม้กระนั้นเพียงพอเข้าตอนก่อนด้านหลังเรื่องในตอนแรกมันจะสาดความน่าติดตาม ต่อจากนั้นก็จะต้องการมองตอนหน้าเรื่อยเนื่องจากว่าราวกับช่วงแรกมันจะทราบดีแล้วว่าปูอะไร แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยใส่เนื้อหาเพิ่มกระทั่งมันสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง พูดง่ายๆเป็น มันเป็นการนำจุดเด่นของดิสโทเปียอเมริกันมาแปลความแบบยุโรป และก็มันสำเร็จมากมายเมื่อมาพบความสนใจเนื้อหาในงานสร้างอย่างนี้
การแบ่งพาร์ทนักแสดงที่ให้อารมณ์เสมือนสตาร์วอร์ตรีภาคข้างหลังๆที่เน้นเล่าการค้นหาตนเอง ภายหลังถูกจู่โจม แล้วก็ได้เจอกับเคราะห์กรรมอันยิ่งใหญ่ แม้ว่าจะอยู่คนละฝั่ง แต่ละคนถูกผลักให้ไปสู่ทางของตน สลับกับการมีตัวละครเสริมเด่นๆมาช่วยเพิ่มรสให้การเดินทางนั้นมีชีวิตชีวาด้วย ทั้งยังเรื่องราวยังไปด้านหน้าอย่างเร็วรวมทั้งเสียใจแบบไม่เกรงใจผู้ชม ผู้แสดงต่างๆจะต้องพบกับเรื่องห่วยแตกที่ไม่สมกับวัย แต่ว่าก็ยังจะต้องเดินหน้าถัดไปอย่างมีหวังว่าวันใดวันหนึ่งจะได้มีอิสรภาพญ่ที่กระทบกับชีวิตกระทั่งจำเป็นต้องเอาชีวิตรอด
กับค้นหาตัวตนหรือความลับของอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เอลคุณย่า ซีรี่ย์ฝรั่ง เด็กวัยหนุ่มผู้มีภารกิจสำคัญที่จะต้องทำ ลิฟเด็กผู้หญิงที่จะต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือครอบครัว หรือ คีอาโน ชายที่พร้อมแลกเปลี่ยนทั้งหมดทุกอย่างเพื่อตนเองรอดชีวิต ทั้งสิ้นนี้ทำออกมาได้ครอบคลุมและก็ทำให้มองเห็นปรับปรุงของผู้แสดงที่มาจากการช่วยส่งเสริมของนักแสดงอื่นๆด้วยเหมือนกัน
ที่จะทำให้การเดินทางคราวนี้เปลี่ยนของพวกเขาไปในแนวทางที่คุณจะไม่สามารถที่จะคาดการณ์ข้อสรุปได้เลย สามช่วงแรกผมพูดได้ว่าคุณจะติดหนึบไปไหนไม่รอดเลย หากคุณถูกใจแนวนี้และก็ติดตามเรื่องราวไปร่วมกันเพชรเม็ดสวยจากยุโรปของเน็ตฟลิกซ์ได้เกิดขึ้นอีกชุดแล้ว ซีรีส์ยุโรปที่จับนำจุดเด่นของดิสโทเปียมาเขย่าอย่างมีเหตุผล นักแสดงแรงบันดาลใจแล้วก็เรื่องที่น่าติดตาม แล้วก็ซ่อนเร้นทุกอารมณ์ อีกทั้งรัก โศกสลด หมดกำลังใจ ขบขัน ดราม่า ในทุกๆตอน ก็จำเป็นต้องบอกเลยว่าไม่อยากที่จะให้ผ่านไป
เพราะเหตุว่ามันดีเลิศๆดีแบบไม่น่าเชื่อ แม้ว่าจะมีชื่อของโปรดิวเซอร์ที่สร้างซีรีส์ DARK ปรากฏมันก็ไม่ทำให้ผมบันเทิงใจ จนถึงได้ดูด้วยตาของตนเอง มันเป็นความระทึกใจตลอด 6 ตอน ความยาวไม่ถึง 1 ชั่วโมง ให้อารมณ์แบบหนังดิสโทเปียในตลาดแต่ว่ามาในแบบอย่างซีรีส์ที่มีคุณภาพที่อีกทั้งสนุกสนานและก็ทิ้งเงื่อนในทุกตอน แถมดูราวกับว่าจบแบบงั้นมันควรมีฤดูกาลต่อแน่นอน
เนื่องจากฤดูกาลนี้มันยังเป็นเพียงแค่จุดกำเนิดของมหากาพย์ความใหญ่โตในระดับน้องๆสตาร์วอร์ อย่างยิ่งจริงๆ ซึ่งมองง่ายยิ่งกว่าซีรีส์เวลาอย่าง Dark มากมาย ด้วยเหตุนั้นคุณจะไม่ต้องคิดอะไรล้นหลาม ปลดปล่อยให้เรื่องราวกับงานสร้างดีๆพาคุณไปก็พอเพียง เพราะว่าถ้าเช่นนั้น คุณจะคอยอะไรอยู่ล่ะนะครับ ไปดูเลย!! แม้กระนั้น เรตมันระดับ 18+ ก็ไตร่ตรองความร้ายแรงในเรื่องด้วยครับ เนื่องจากว่าผู้แสดงวัยรุ่นในเรื่องมิได้พบอะไรที่ค่อยเลยสักคน
Valley Of Tears
ซีรีส์สงครามหกวัน ชาวยิวนั้นเปรียบได้กับกับเชื้อชาติที่ชอบเป็นเหยื่อเสมอในเวลาที่กำเนิดการทำศึก ดังเช่นว่าความนึกคิดของทหารที่นาซีในตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ต้องการจะกำจัดชาวยิวออกไปให้พ้นโลกด้วยการฆ่ากลุ่ม ใช้แรงงานอย่างมาก แล้วก็นำไปทดสอบร่างกายอย่างขาดความกรุณาปรานีและก็ไร้มนุษยธรรมแต่ว่าชาวยิวนั้นมิได้เป็นเพียงแต่เหยื่อในสงครามโลกครั้งที่ 2 เพียงแค่นั้นเพราะเหตุว่าถัดมาในการรบระหว่างอาหรับ – อิสราเอลนั้นพวกเขาเองก็เป็นคนที่ได้รับผลพวงสิ่งเดียวกัน พวกเรานั้นคงจะได้มองเห็นสิ่งที่ชาวยิวถูกกระทำในตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 กันมาไม่มากมายก็น้อย
แม้กระนั้นสิ่งที่พวกเขาจำต้องพบเห็นในตอนสงครามหกวัน-อิสราเอลนั้นมิได้ถูกเอ๋ยถึงซักเท่าไหร่ ทาง HBO ก็เลยได้มีการสร้างซีรีส์ขึ้นมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของการสู้รบในคราวนั้นผ่านมุมมองของชาวยิวจนได้ออกมาเป็นซีรีส์เรื่อง Valley Of Tears ชาวยิวนั้นมิได้เป็นเพียงแต่ชาติเพียงแค่นั้นแม้กระนั้นยังเป็นบิดาลุ่มที่เชื่อในศาสนาเดียวกันอีกด้วยมันก็คือศาสนาชาวยิวเนื่องจากว่าพวกเขามีความชาญฉลาดเป็นอย่างยิ่งแล้วก็เก่งในประเด็นการค้าขายรวมทั้งการเจรจาต่อรอง
ทำให้พวกเขานั้นชอบมีฐานะที่ออกจะดี ซีรี่ย์ฝรั่ง และก็บางเวลาบางทีอาจไปขัดผลประโยชน์ของคนอีกหลายคนเข้า เมื่อกำเนิดการรบพวกเขาก็เลยแปลงเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับความพึงพอใจอยู่เป็นประจำที่สำคัญเป็นการทำศึกในคราวนี้ได้เริ่มขึ้นในวันที่มีความจำเป็นทางศาสนาของชาวยิวอย่างใหญ่โตมันก็คือวันที่เรียกว่า Yom Kippur ซึ่งจะมีการไม่กินอาหารตามความเลื่อมใสทางศาสนา การเกิดการทำศึกในขณะดังกล่าวข้างต้นนั้นก็เลยทำให้มีอาการชาวคนยิวค่อนข้างจะที่จะอ่อนแอและไม่ได้พร้อมสำหรับในการรบValley Of Tears
จะเล่าย้อนกลับไปในเรื่องการทำศึกวัน Yom Kippur ซึ่งเกิดขึ้นในปี 1973 โดยนายสิบเล่าในมุมมองของทหารอิสราเอลซึ่งเป็นข้างชาวยิวซึ่งในวันสำคัญทางศาสนาคนยิวดังกล่าวมาแล้วข้างต้นนี้ผู้คนนั้นต่างพากันไม่กินอาหารตามความเลื่อมใสทางศาสนาทำให้ความพร้อมเพรียงทางด้านร่างกายของพวกเขานั้นบางครั้งอาจจะไม่พอต่อการสู้รบซึ่งเป็นช่องทางอันดีของลซีเรียแล้วก็อียิปต์ซึ่งได้มีการส่งหน่วยทหารแนวหน้าเข้าไปปะทะกับกองกำลังของอิสราเอลโดยที่ไม่ทันให้ตั้งตัว การบุกเข้ามาในตอนที่ไม่มีผู้ใดคาดหมายว่าจะกำเนิดการรบขึ้นนั้นก่อเกิดความยากแค้นรวมทั้งปัญหามากมายก่ายกองของทหารฝั่งอิสราเอล
ไม่เพียงเท่านั้นตอนก่อนจะกำเนิดการทำศึกทางอิสราเอลเองก็มีเรื่องราวการขัดกันด้านในเช่นกันด้วยประเด็นการบังคับและก็ความแตกต่างระหว่างชนชั้น ทำให้การบุกของซีเรียและก็อียิปต์นั้นเปรียบได้กับกับเหตุผลอันดีที่จะทำให้ทุกคนในชาตินั้นกลับหันมาร่วมมือกันอีกรอบแรกเริ่มนั้นอิสราเอลรวมทั้งเยรูซาเล็มซึ่งเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์เคยเป็นหลักที่ของซีเลียและก็อียิปต์มาก่อน การบุกในคราวนี้ก็เลยมีวัตถุประสงค์เพื่อยึดพื้นที่กับคืนมา จะพูดว่ามันเป็นการสู้รบผู้แทนก็ไม่ผิดนักเนื่องจากว่าในการรบคราวนี้มีตัวการใหญ่ที่รอสั่งการอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง
ทางอิสราเอลนั้นมีอเมริการอให้การส่งเสริมอยู่ ซีรี่ย์ฝรั่ง สวนซีเรียรวมทั้งอียิปต์นั้นทางรัสเซียได้ให้การช่วยเหลือ แน่ๆว่าความอยากได้ของมหาอำนาจทั้งคู่ประเทศนั้นย่อมเป็นทรัพยากรทางธรรมชาติที่สมบูรณ์บริบูรณ์อย่างยิ่งในฝั่งทวีปเอเชียทิศตะวันออกอย่างแน่แท้ไม่เพียงเท่านั้นขณะดังที่กล่าวถึงแล้วยังเป็นตอนเวลาของสงครามเย็นที่มีการสะสมอาวุธซึ่งเปรียบกับอำนาจของทั้งคู่ฝั่งอีกด้วย ถ้าเกิดเหตุแย่ลงกว่าเดิมอาจก่อให้กำเนิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้นมา ทำให้ทาง UN นั้นจำต้องออกโรงมามานะทำให้สองฝ่ายโน่นหย่าศึกกันให้ได้กระทั่งเสร็จ
ซีรีส์เรื่อง ดูหนังผ่านเน็ต Valley Of Tears เป็นซีรีส์อีกเรื่องหนึ่งซึ่งสามารถเก็บเนื้อหาได้อย่างดีเยี่ยมจนถึงงานภาพที่เสนอออกมานั้นมีความสมจริงสมจังอย่างสมบูรณ์แบบ มันมิได้ทำให้คนรับดูรู้สึกถึงความมึนเมามันสำหรับในการต่อสู้หรือบันเทิงใจไปกับการต่อสู้กันไปๆมาๆในเหตุการณ์วิกฤติอย่างเช่นการทำศึกนั้นภาพยนตร์หัวข้อนี้สามารถถ่ายทอดความหวาดกลัวออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งเป็นความจริงในการทำศึกที่เมื่อทุกคนจำเป็นต้องพบเจอแล้วย่อมมีความรู้สึกกลัวในใจ
เนื่องจากว่าพรีเซนเทชั่นผ่านมุมมองของทหารอิสราเอลด้วยเหตุผลดังกล่าวพวกเราก็เลยจะได้มองเห็นเนื้อหาทุกขั้นตอนสำหรับในการต่อสู้ของพวกเขาแบบที่ไม่เคยมีภาพยนตร์เรื่องไหนเลือกจะกล่าวถึงพรีเซนเทชั่นมาก่อนที่สำคัญเป็นมีคณะทำงานที่เป็นชาวอิสราเอลมาร่วมสร้างซีรีส์ประเด็นนี้สิ่งเดียวกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวน่าจะได้มองเห็นความเหมือนจริงที่เกิดขึ้นในมุมมองของคนชาติเดียวกัน แม้กระนั้นแต่สิ่งที่นิยมจะใส่เข้ามาในซีรีส์แนวการศึกซึ่งก็คือความดราม่าซึ่งซีรีส์ประเด็นนี้ก็ใส่เข้ามาแบบเต็มๆด้วยเหมือนกัน
ซึ่งจะเป็นตอนๆแรกที่ดินผู้ผลิตนั้นอยากให้ผู้ชมได้เข้าถึงอารมณ์รวมทั้งความรู้สึกของมนุษย์ที่อยู่ในเรื่องแล้วก็เรื่องราวแบบเต็มที่ก่อนและหลังจากนั้นก็ค่อยไปเล่าในส่วนของการเกิดการทำศึกเพื่อคนรับดูนั้นรู้สึกเข้าถึงได้มากเพิ่มขึ้นมีการเอ่ยถึงศาสนาที่พวกเขานั้นใช้สำหรับในการยึดเหนี่ยวจิตใจอีกด้วย แม้ว่าจะเล่าในมุมมองของชาวอิสราเอลแต่ว่าก็มิได้พรีเซ็นท์ให้อีกข้างนั้นแปลงเป็นตัวร้ายเนื่องจากว่าเป็นซีรีส์ที่ย้ำความเหมือนจริงก็เลยได้มีการเลือกพรีเซ็นท์สถานะการณ์ความบกพร่องและก็ความไม่ระวังของทางฝั่งอิสราเอลอีกด้วย กล่าวได้ว่าเป็นซีรีส์ซึ่งสามารถถ่ายทอดประวัติศาสตร์ออกมาได้อย่างเหมือนจริงและไม่เข้าข้างฝ้ายข้างใดข้างหนึ่งได้เป็นอย่างงี้
Spotlight – คนข่าวสารคลุ้มคลั่ง
จะต้องบอกเลยว่า ด้วยวัตถุดิบของ ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต Spotlight นั้น มันดีในตัวของมันเองอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่ความเน่าเหม็นเฟอะของสถาบันศาสนา แนวทางการทำงานของสื่อมวลชน การก่ออาชญากรรมทางเพศเยาวชน เพศลำดับที่สาม ปัญหาด้านครอบครัว ความเลื่อมใสของคนภายในสังคม อื่นๆอีกมากมาย กล่าวได้ว่ารายละเอียดครบถ้วนบริบูรณ์ครอบคลุมปัญหาที่ตั้งหลักปักฐานลึกในสังคมเป็นเวลายาวนาน
แม้ว่าหนังจะมองเต็มไปด้วยใจความสำคัญหนักๆมากมายก่ายกอง แม้กระนั้นในช่วงเวลาที่มอง พวกเราไม่เคยทราบสึกเครียดหรือเบื่อเลยนิดหน่อย ตรงกันข้าม พวกเราคิดว่าเวลามันผ่านไปไวมากมาย มองสนุกสนาน เข้มข้นครบรส ชักชวนติดตาม มีมุกตลกขบขันแทรกสอดเนียนๆตลอด ที่สำคัญมองไม่ยากเลย ค้ำประกันว่านี่เป็นหนังสำหรับคนทุกคน ทุกวัย ทุกศาสนา และก็ทุกทุกสังคม!เนื่องจากศาสนาคือเรื่องของทุกคน ไม่ว่าจะเต็มอกเต็มใจไหมเต็มอกเต็มใจจะเกี่ยวก็ตาม เพราะเหตุว่าพวกเราดูเหมือนจะทุกคนต่างมีศาสนาเป็นของพวกเราเองแต่กำเนิด ทั้งๆที่พวกเรามิได้เลือก (อย่างที่รู้กัน บิดามารดาหรือผู้ดูแลกำหนดให้ทั้งหมด)
พอเพียงโตมาก็ถูกคนแก่ที่นับถือลาก ซีรี่ย์ฝรั่ง ไปร่วมนี่โน่นโน่นของศาสนานั้นๆจนถึงเปลี่ยนเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน เป็นประจำ เป็นความคุ้นชิน หรือบางทีอาจแปลงเป็น “ความเชื่อ” ไปเลยก็ได้สำหรับบางบุคคลที่อินกับมันมากมายๆซึ่งก็ว่ามิได้ เพราะว่าคนเริ่มแรกเขาวางศาสนาไว้สูงมากมายจริงๆหนังเขาเล่ากระชับฉับไว แล้วก็เรียบง่าย แต่ว่าผลนั้นอิมแพคต่อความนึกคิดความรู้สึกผู้ชมได้อย่างมากมาย มันมีหลายประโยคที่ผู้แสดงตัวหนึ่งกล่าวมาเพียงแค่สั้นๆและก็เสมือนประโยคนั้นจะผ่านไปอย่างเร็ว
แม้กระนั้นไม่เคยทราบเพราะเหตุไร มันกลับติดตรึง สะท้อนอยู่ในจิตใจพวกเราอย่างแน่นเหนียว เป็นฟังแล้วรู้สึกโดน ว่างั้นเหอะเป็นต้นว่า ประโยคที่ว่า “ผมมิได้เข้าโบสถ์นานแล้ว แต่ว่าผมยังเรียกตัวเองว่าเป็นโรมันคาทอลิก” มันเป็นอะไรที่… เอ้อจริง พวกเราก็เป็น… จริงๆพวกเราก็ไม่ได้อะไรกับการทำบุญใส่บาตร เข้าวัดฟังธรรม หรืออะไรเกี่ยวกับพระกับเจ้านานแล้ว แม้กระนั้นพวกเราก็ยังเรียกตัวเองว่าเป็นพุทธศาสนิกชน เนื่องจากใบแจ้งกำเนิดยังบอกว่าพวกเราเชื่อถือพุทธ
อย่างไรก็ตาม หนังเน้นย้ำเล่าในมุมมองรูปแบบการทำงานของคนคุ้ยข่าวสารหรือฝั่ง journalists – เป็นมิได้เล่าในมุมของคนภายในศาสนามากแค่ไหน โดยเหตุนั้น พวกเราก็เลยจะมิได้ทราบหรอกว่า เพราะเหตุไรนักบวชจำต้องทำธุระอะไรแบบนั้น มันบางทีอาจจะเป็นสิ่งที่ปฏิบัติต่อเนื่องกันมากระทั่งเสมือนจะยุติธรรมเนียมปกติ มันบางครั้งอาจจะเป็นความต่ำทรามส่วนตัว หรือมันบางทีก็อาจจะเป็นลัทธิมืดๆที่พวกเขาไม่มีทางยอมถูกเผยโฉม
แม้กระนั้นที่แน่นอนไม่ว่าจะเช่นไร พวกเรารู้กันดีอยู่แก่ดวงใจว่า ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต สิ่งที่นักบวช…ผู้ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพลเมือง… ปฏิบัตินั้น มันราวกับเอาความนับถือของคนคนนึงมาเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทำลายชีวิตของเขาให้ไม่ดังเดิมชั่วกัลปวสาน มันผิดจะต้อง! จิตใจทำด้วยอะไร! เป็นดูแล้วอินมากจริงนะ นี่พวกเราก็มองไปตบหัวเข่าไป มองไปบีบมือไป อินสุดๆพีคเว่อร์ มองไปนี่หัวได้คิดตามไปตลอดไม่รู้จักจบสิ้น
แม้กระทั้งแมสเซจยิบย่อยที่แทรกสอดเข้า มาระหว่างการเสาะหาคดีนักบวชฉาวของกลุ่ม Spotlight ก็พาเสียใจรวมทั้งเชิญให้ฉุกคิด ได้แก่ ภาพของเด็กน้อยอินโนเซนต์กำลังลัลล้าอยู่ในหมู่บ้าน หรือติดอยู่ธอลิกโลกงามที่เข้าโบสถ์ไปฟังนักบวชบ้าราคะผู้นั้นอย่างเบิกบานเปี่ยมเลื่อมใสทุกวี่วันอาทิตย์ อื่นๆอีกมากมายเหนือสิ่งอื่นใด สารอันเข้มข้นทั้งหลายแหล่จะมาถึงผู้ชมได้ไม่ 100% แบบนี้เลย ถ้าเกิดไม่ได้การแสดงอันทรงอำนาจของกลุ่มผู้แสดงนำฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น Mark Ruffalo, Rachel McAdams, หรือ Michael Keaton
กลุ่มนี้เขาแข็งมากมาย เล่นดีทุกคน แม้กระทั้งตัวประกอบเล็กใหญ่ก็ยังเล่นดี ดูอย่างเป็นธรรมชาติหมดเลย ไม่มีที่ว่ากล่าว โดยรวมเป็น สตรองมากมายส่วนตัวสำหรับเรา ดารานำที่อยู่ในกลุ่ม Spotlight ทุกคนเล่นดีตรงที่ เขาทำให้ผู้ชมน่าเชื่อถือวางใจเลยว่า เขากำลังเป็นผู้สื่อข่าวที่กำลังอินกับงานมากมายจริงๆ– มากมายกกกก…จนกระทั่งกับทำให้ผู้ชมอย่างพวกเราอินตามกับเรื่องราวไปด้วยทุกวินาที แต่ละคนส่งอารมณ์มาถึงผู้ชมได้โดยที่ไม่ต้องเล่นใหญ่แม้กระนั้นใดใด โปรเฟสชันนัลมากๆ
ในหนัง Spotlight ทั้งยังเรื่องพวกเราแทบมองไม่เห็นการเข้ามามีหน้าที่ของคนภายในครอบครัวหรือคนภายในชุดแต่งกายเลย จุดโฟกัสแม้กระนั้นหลักการทำงานของกลุ่ม Spotlight กับบุคคลที่เกี่ยวโยงกับคดีนั้นล้วนๆหนังมันทำให้พวกเราได้มองเห็นการทำงานหนักของผู้รายงานข่าวในมุมที่พวกเราบางทีอาจไม่เคยคาดการณ์มาก่อน แถมระยะเวลาในเรื่องเป็นปี 2001-2002 ซึ่งเป็นช่วงๆที่เทคโนโลยียังไม่เจริญก้าวหน้าเท่าเดี๋ยวนี้ แม้กระทั้งอินเทอร์เน็ตเองก็พึ่งบูม การทำงานกับฐานข้อมูลต่างๆของพวกเขานั้นก็เลยไม่ง่ายเลยกระทั่งพวกเราก็ได้แต่ว่าสงสัยว่า
สังคมพวกเราจะมีนักข่าวสารคนจริงแบบงี้บ้างมั้ยนะ ผู้สื่อข่าวที่มีจริยธรรม ขยันตั้งอกตั้งใจปฏิบัติภารกิจของตน ทุ่มเททำงานมาก มองเห็นเรื่องส่วนกลางสำคัญกว่าเรื่องเฉพาะบุคคล เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เพื่อต่อสู้เพื่อความถูกต้องชัดเจนเป็นกลาง เพียรพยายามเปิดเผยฆาตกร และก็ปกป้องรักษาผู้บริสุทธิ์ในสังคม โดยมิได้หวังแม้กระนั้นทรัพย์สินหรือเรตติ้งข่าวสาร
กลุ่ม Spotlight เป็นสื่อที่ทุกสังคมจะต้องมี ซีรี่ย์ฝรั่ง เพราะเหตุว่าสื่อมีบทบาทสอดส่อง เป็นหูเป็นตา เป็นปากเสียง แล้วก็เป็นแสงไฟให้ดวงตาของราษฎรทุกคน คนอับโชคที่กลายเป็นเหยื่อจะได้รับความเป็นธรรม คนโชคดีที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงก็ได้ตาสว่าง จนถึงไปถึงคนภายในรุ่นต่อๆไปจะได้ไม่ต้องเสี่ยงพบกับเรื่องแบบงี้อย่างที่คนโบราณๆได้พบ
หนัง Spotlight เอง ก็เป็นหนังที่ชาวไทยควรจะมอง มันไม่ใช่แค่เป็นหนัง based on a true story ที่มองบันเทิงใจ แม้แม้กระนั้นมันดีเยี่ยม ดีเลิศจริงๆสงสัยนัก ทำหนังอย่างไรถึงออกมาดีได้ขนาดนี้หมดทั้งตัวบทรายละเอียด โปรดักชั่น รวมทั้งการแสดง ดีกระทั่งพวกเรามีความรู้สึกว่า… เฮ้ย! คนทำภาพยนตร์ไทยจะทำหนังดีๆอย่างงี้กับเขาได้บ้างมั้ย หรือถ้าหากทำเป็นจริง จะได้โอกาสได้ออกฉายอย่างงี้บ้างมั้ย
Locked Down
แพ็กตัน กับ ลินดา เป็นคู่สมรสที่หมดใจให้กัน จริงๆทั้งสองควรจะแยกทางตัวใครตัวมันไปแล้ว ถ้าหากไม่โดนรัฐบาลอังกฤษสั่งล็อกดาวน์ซะก่อน ทำให้ทั้งสองจำเป็นต้องทนอยู่กันไป ช่วงเวลาที่ลินดากำลังไปได้ดีกับงานผู้แทนสาขาต่างแดนของบริษัทเครือยักษ์ใหญ่ แพ็กตันกลายเป็นเพียงแค่บุคลากรส่งเรื่องปกติ ที่ดันมาไม่มีงานทำซ้ำเสียด้วย ไม่เคยทราบว่าการล็อกดาวน์ครั้งนี้จะเป็นช่องทางให้ทั้งสองหันมาทวนความข้องเกี่ยว หรือยิ่งเหม็นขี้หน้ากันกว่าเดิม แต่ว่าที่แน่นอนทั้งสองจำต้องตกลงใจครั้งใหญ่เรื่องชิงทรัพย์! เอ่ะ มันมาทางนี้ได้ยังไงนะ
หนังลงสตรีมไม่งทาง HBO Max ทั้งโลก (ส่วนในบ้านพวกเราเป็น HBO Go) ก่อนเข้าฉายในอังกฤษประเทศรกรากในมีนาคมนี้เสียอีกสำหรับ Locked Down หนังที่มีกลุ่มผู้แสดงแล้วก็กลุ่มสร้างน่าดึงดูดสุดๆไล่ไปตั้งแต่ 2 นักแสดงนำอีกทั้ง จิวีเทล เอจิโอฟอร์ ซีรี่ย์ฝรั่ง ที่เคยเข้าชิงออสการ์ผู้แสดงนำฝ่ายชายจาก 12 Years a Slave (2013) แต่ว่าบ้านพวกเราคงจะคุ้นตาจากบท มอร์ดอ
คู่อริร่วมสำนักของแพทย์แปลก Doctor Strange (2016) มากยิ่งกว่า เกาะติดกับดาราหนังสาวมากมายความสามารถขวัญใจผู้ชมอย่าง แอนน์ แฮททาเวย์ ผู้ครอบครองออสการ์ดาราหนังสมทบหญิงเหมาะสมที่สุดจาก Les Misérables (2012)ซึ่งตอนต้นดูเหมือนกับว่าเคมีไม่น่าจะเข้ากันได้ดีนัก เพราะว่าพวกเราไม่ค่อยมองเห็นเอจิโอฟอร์ที่มักเล่นบริเวณใบหน้าเครียดมาเล่นหนังกระหนุงกระหนิง แต่ว่าด้วยความมือโปรของทั้งสองมันก็ไปพอดีกันได้ ถึงโมเมนต์สวยบางทีอาจไม่เด่น แม้กระนั้นโมเมนต์อดีตกาลคู่ชีวิตที่เปลี่ยนเป็นคู่ปรับกันนี่โคตรได้
นอกจากนั้นหนังยังได้ศิลปินรับเชิญดังๆมาแจมผ่านเฟซไทม์ และก็ซูม เข้าเหตุการณ์วัววิด-19 อีกเยอะแยะ ที่น่าดีใจเลยเป็นมีคุณลุง เบน คิงสลีย์ และก็ เบน สติลเลอร์ มาเป็นเซอร์ไพรส์ของหนังที่ดูอย่างเป็นธรรมชาติมากมายๆและก็น้องหนูโชแชงแห่งหนังแฮปรี่ พอเพียงตเตอร์ หรือ เคหน เหลียง มาโผล่ให้แทบจำไม่ได้ด้วย แต่ว่าที่สวยสุดอาจเป็นเจ้าเม่นที่โผล่มาในช่วงต้นของหนังแล้วถูกเอ๋ยถึงเรื่อยตลอดเรื่อง ที่ด้านเครดิตดาราหนังยังให้ชื่อว่า เจ้าโซนิก เสียด้วย เป็นกิมไม่กชักชวนยิ้มไม่น้อยเลย
หนังยังได้ผลหน้าที่ดูแลในแนวโรแมนติกดราม่าคอมเมดีของผู้กำกับ ดั๊ก ไลแมน ที่ ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต The Bourne Identity (2002) ตั้งแต่แมื่อไปขลุกทำหนังกับพ่อ ทอม ชุดครุยส์ อยู่ถึง 2 เรื่องเป็นดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต Edge of Tomorrow (2014) แล้วก็ American Made (2017) และก็สำหรับประเด็นนี้ที่ใกล้เคียงสุดคงจะกล่าวได้ว่าเหมือนงานเดิมของไลแมนอย่าง Mr. & Mrs. Smith (2005) ที่สุด เพียงลดความเว่อให้แปลงเป็นรอยยิ้มแบบประชาชนๆใต้ข้อกำหนดของการถ่ายหนังในตอนวัววิดได้นั่นเอง
เพราะว่านอกเหนือจากเรื่องทั้งยังรักทั้งยังเกลียดกันไปๆมาๆของคู่ครองแล้ว หนังยังต่อเรื่องราวเปลี่ยนเป็นหนังชิงทรัพย์สุดสับสนได้นิ่งเลยด้วย เป็นหาจุดขายมันๆจนได้สิน่างานนี้ยังจำเป็นต้องดูงานประพันธ์บทของ สตีเฟน ไนท์ มือเขียนบทรุ่นเก๋าที่เคยมีชื่อเข้าชิงออสการ์สาขาบทดีที่สุดจาก ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต Dirty Pretty Things (2002) มาแล้ว ในหนังหัวข้อนี้คงจะเป็นหนังรักบาดหมางปกติไปเลย
ถ้าเกิดขาดการหยอดเนื้อหามากไม่น้อยเลยทีเดียวให้น่าติดตาม ซีรี่ย์ฝรั่ง ไม่ว่าจะมุกกุ๊งกิ๊งน่ารักน่าเอ็นดูที่พวกเรารู้จักจากหนังรักสไตล์อังกฤษ ตลอดจนเหตุการณ์เชิญปวดศรีษะที่ชักชวนขำรวมทั้งเอาใจช่วยผู้แสดงไปพร้อม ว่าท้ายที่สุดคู่นี้จะรักหรือจะเลิกดีล่ะ คนใดกันถูกใจหนังรักสไตล์อังกฤษอย่างและก็คงจะจำเป็นต้องกล่าวว่าท่ามกลางความติดๆขัดๆของการเล่าที่มองเห็นได้ว่าได้ผลพวงหนึ่งจากการถ่ายทำภายใต้การล็อกดาวน์ในอังกฤษ มันก็เลยกลายเป็นว่าหนังบันทึกระยะเวลาประวัติศาสตร์ที่คนทั่วโลกจำเป็นต้องพบเจอผ่าน
ทั้งยังเรื่องราวในหนังเองที่ผู้แสดงจำต้องอยู่แต่ว่าในบ้าน คุยกันผ่านทางจอ bobbyrica เริ่มทดลองความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านทั้งๆที่ไม่เคยพึงพอใจมาก่อน การต่อคิวแบบเว้นระยะห่างเพื่อจ่ายตลาด การใส่หน้ากากผ้าแปลงเป็นเรื่องที่จะต้องทำ แล้วก็การเสวนาเรื่องรับรองสุขภาพถ้วนหน้าก็เกิดเรื่องที่รัฐบาลทุกประเทศควรคิดอย่างเอาจริงเอาจัง หนังก็ยังบันทึกประวัติศาสตร์ทางอ้อมผ่านความไม่ราบรื่นของโพรดักชันที่พวกเราจะสัมผัสได้ว่าไม่ลื่นเช่นเคย
รวมทั้งการตั้งใจใช้เฟซไทม์บ้าง ซูมบ้าง ก็เป็นการหยอดเพื่อไขปัญหาของตนเองด้วยซึ่งเมื่อพวกเรามองมันหนังมันก็เลยไม่ใช่เพียงแค่ความเบิกบานใจที่ได้รับ แม้กระนั้นเป็นพลังสำหรับเพื่อการสู้กับชีวิตพรุ่งนี้ถัดไป ว่าถึงจะกุกกักบ้าง โดนสั่งหยุดบ้างคงจะไม่มีความแตกต่างจากพวกเราๆท่านๆแม้กระนั้นมองสิกลุ่มดาราแล้วก็คณะทำงานกองหนึ่ง
เขายังทำหนังอีกทั้งเรื่องออกมาให้พวกเราได้ยิ้มได้อิ่มเอมจิตใจอยู่ปัจจุบันนี้ได้เลยจ้ะความรู้สึกส่วนตัวเมื่อมองจบ เป็นหนังเรื่องแรก ที่มีการถ่ายทำออกมา ตั้งแต่กำเนิดเหตุการณ์วัววิด ทำให้พวกเราได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ราวเหตุการณ์โลกของพวกเราในตอนนี้จริงๆเลย ดูแล้วรู้สึกห่อเหี่ยวใจ ไม่น่าเชื่อเลยว่าทั้งสิ้นจะเกิดเรื่องจริง ที่ถูกใจสูงที่สุดเป็น ผู้แสดงของหนัง รวมถึงดาราหนังรับเชิญที่มากความสามารถ